เข็น ...ใจ

เข็น ...ใจ

เล่าเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 63
โดยชุติมณฑน์ ปัญญาคำ

คงปฏิเสธไม่ได้ที่ผู้คนทั่วโลกตกอยู่ในสภาวะตึงเครียดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ซึ่งประเทศไทยเราเองก็เช่นกัน ผู้คนต่างตื่นตระหนกกับสถานการณ์ที่ยังควบคุมไม่ได้ของการระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว  จากความตื่นตัวของการป้องกันและดูแลตัวเองในการที่หาซื้อหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือเพื่อป้องกันโรค ซึ่งหาซื้อได้ยากและมีราคาแพง  ประจวบเหมาะกับอัตราการเลิกจ้างที่สูงขึ้น โรงงานปิดตัวจากปัญหาเศรษฐกิจของประเทศและทั่วโลก  ส่งผลกระทบทั้งโดยตรงและโดยอ้อมกับคนไทยเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  จากการเปลี่ยนแปลงไปของสถานการณ์ดังกล่าว บางอย่างอยู่เหนือการควบคุมหรืออยู่ระหว่างการพยายามควบคุม  ทำให้บางคนต้องตกอยู่ในสภาวะที่ต้อง “เข็นใจ” เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติต่าง ๆ ไปได้  มันคงไม่ง่ายเลยที่ทุกคนจะผ่านไปได้อย่างราบรื่น  ทั้งนี้โดยปัจเจกบุคคลล้วนแล้วมาจากต่างพื้นอารมณ์ ส่งผลต่ออาการติดขัดทางใจที่สั้นหรือยาวได้ต่างกัน  อาการติดขัดทางจิตใจนี้ หากจะให้ง่ายขึ้นเราอาจเรียกมันอีกอย่างว่า “ความเครียด” ก็ได้

จริงอยู่ “ความเครียด” เป็นกลไกตามธรรมชาติอย่างหนึ่งของร่างกายในการเตรียมพร้อมเพื่อที่จะปรับตัวรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น  เหมือนเป็นสัญญาณเตือน กระตุ้นให้ร่างกายมีการตื่นตัว เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้หรือถอย  ปฏิกิริยาทางร่างกายที่ตอบสนองต่อภาวะการติดขัดทางจิตใจหรือความเครียด ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวบุคคลนั้น โดยแบ่งออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่

  1. ด้านร่างกาย มีอาการหน้ามืด เป็นลม เจ็บหน้าอก ความดันโลหิตสูง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ซึ่งอาการเหล่านี้เราเรียกว่า การแสดงอาการทางกาย  โดยระดับความรุนแรงของอาการทางกายก็จะมีความแตกต่างกันไปในละบุคคลและระยะเวลาของความติดขัดทางจิตใจ
  2. ด้านจิตใจและอารมณ์ หมกมุ่นครุ่นคิด ไม่สนใจสิ่งรอบตัว ใจลอย ขาดสมาธิ ขาดความระมัดระวังในการทำงาน จิตใจขุ่นมัว โมโหโกรธง่าย  บางรายอาจสูญเสียความเชื่อมั่นในตนเอง จัดการกับภาวะความคับข้องใจได้ยาก วิตกกังวล ขาดความภูมิใจในตนเอง เป็นต้น
  3. ด้านพฤติกรรม แยกตัว สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ก้าวร้าว เป็นต้น

เมื่อพูดถึงคำว่า “เข็นใจ” คงต้องมาทำความเข้าใจกันแบบแยกทีละคำก่อน  คำว่า “เข็น” ในความหมายตามราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง เข็นดันสิ่งที่ติดขัดที่ไม่อาจเคลื่อนไปได้โดยปกติให้เคลื่อนไปได้ เช่น เข็นรถ  หรือหมายถึง เร่งรัดให้ดีขึ้น

ใจ” หมายถึง ส่วนที่ทําหน้าที่รู้ รู้สึก นึก และคิด หรือจุดสำคัญของบางสิ่งบางอย่าง

เมื่อนำคำสองคำนี้มาอยู่ด้วยกัน “เข็น...ใจ” ผู้เขียนขอให้คำนิยามในความเห็นส่วนตัวว่า “การเข็นภาวะติดขัดในจิตใจที่อาจจะมีผลให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตในช่วงเวลานั้น ๆ ออกไป”

วิธีการ “เข็น ...ใจ”

  • ทบทวนหรือค้นหาปัญหาที่มันรบกวนใจหรืออาการติดขัดทางใจว่ามีอะไรบ้าง
  • ลำดับความสำคัญหรือลำดับปัญหา 1, 2, 3…..
  • เลือกปัญหาหรือสิ่งมีรบกวนจิตใจที่คาดว่าจะจัดการได้ก่อนสัก 2-3 อย่าง เพราะเราไม่สามารถเลือกจัดการได้ทั้งหมด
  • หาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการติดขัดทางจิตใจ แล้วหาแนวทางการแก้ไข
  • นำวิธีใหม่เพิ่มเติมจากเดิมมาใช้แก้ปัญหา และลงมือทำไปทีละขั้น
  • มุ่งแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ไม่ให้ความคิดและกิจกรรมอื่นมารบกวน
  • ในขณะเดียวกันก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับปัญหาที่เกิดขึ้น ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นหากปัญหาใดแก้ไม่ได้
  • ฝึกมองโลกในแง่ดี คิดเชิงบวก
  • ไม่ตำหนิตนเอง
  • มองหาข้อดีของตนเอง
  • ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นเพื่อแก้ไขปัญหา เพราะบางปัญหาเราไม่สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง
พึงระลึกอยู่เสมอว่า โดยศักยภาพของคนเราแล้ว เรามีศักยภาพเพียงพอที่จัดการสิ่งที่มารบกวนจิตใจได้ด้วยตัวเอง

อ้างอิง - https://dictionary.sanook.com และ https://www.thaihealth.or.th/Content/